กรมการแพทย์กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย (TCELS) ริเริ่ม “โครงการพัฒนาคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยหลายสถาบัน (Joint IRB)” ในปี พ.ศ. 2549 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ลดความซ้ำซ้อนและระยะเวลาในการพิจารณาด้านจริยธรรม พัฒนาให้เกิดรูปแบบคณะกรรมการร่วมหลายสถาบัน โดยกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัย และสถาบันต่าง ๆ จำนวน 24 สถาบันภาคี ลงนามในบันทึกข้อตกลงการจัดตั้ง “มูลนิธิส่งเสริมการศึกษาวิจัยในคนในประเทศไทย” และ “สำนักงานคณะกรรมการร่วมพิจารณาจริยธรรมการวิจัยในคนของประเทศไทย (Joint Research Ethics Committees Thailand (JREC)” เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2549 ณ สำนักงานอยู่ที่สถาบันราชานุกูล กรมสุขภาพจิต
จากนั้น “มูลนิธิส่งเสริมการศึกษาวิจัยในคนในประเทศไทย” ได้จดทะเบียนก่อตั้งเมื่อ 15 กันยายน พ.ศ. 2550 เพื่อเป็นแหล่งสนับสนุนงบประมาณให้แก่ JREC ให้มีการจัดทำวิธีดำเนินงานตามมาตรฐาน (SOP) ซึ่ง JREC เริ่มดำเนินการพิจารณาโครงการจริยธรรมงานวิจัยในปี พ.ศ. 2551 โดยขณะน้ันมีกรรมการสองชุดคือ A และ B ภายหลังการดำเนินการ ได้มีการรพัฒนาการดำเนินงานเรื่อยมาจนได้รับการรับรองมาตรฐาน จาก SIDCER/FERCAP เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551
ความสัมพันธ์ระหว่าง วช. มูลนิธิฯ และ CREC
เมื่อวันที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2553 สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติได้จัดตั้ง “สำนักงานโครงการส่งเสริมและพัฒนามาตรฐานด้านจริยธรรมการวิจัยในคน (National Research Council of Thailand: NRCT)” ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2555 มีการลงนาม “บันทึกความร่วมมือ (Memorandum of Understanding: MOU) ในการพิจารณาจริยธรรมการวิจัยในคนแบบสหสถาบันระหว่างสถาบันภาคีและสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) และเปลี่ยนชื่อ JREC เป็น CREC (Central Research Ethics Committee) และคณะกรรมการ CREC ได้มาจากการเสนอชื่อจากสถาบันภาคีทั้ง 24 สถาบัน
วัตถุประสงค์ของ CREC
บุคลากรของ CREC
บุคลากรมีความรู้และทักษะเพียงพอ ที่จะปฏิบัติหน้าที่ตามแนวทางจริยธรรมการวิจัยสากลและระเบียบปฏิบัติมาตรฐาน (SOPs) ซึ่งเน้นความถูกต้อง ทันเวลา และมีคุณภาพสูงที่สุดในทุกกระบวนการทบทวนจริยธรรมการวิจัยโดยยึดหลักจริยธรรมพื้นฐานดังต่อไปนี้
การดำเนินกาพิจารณาของ CREC
ปัจจุบันสถาบันภาคีกว่า 40 แห่งทั่วประเทศ ประกอบด้วย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) มูลนิธิส่งเสริมการวิจัยในมนุษย์แห่งประเทศไทย (มสจท.) กระทรวงสาธารณสุข วิทยาลัยแพทย์ มหาวิทยาลัย โรงพยาบาล และหน่วยงานต่าง ๆ ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่างสถาบันภาคีดังกล่าวกับ CREC โดยข้อเสนอและจากสถาบันภาคีที่ส่งมา จะนำไปรวบรวมและส่งต่อให้กับคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องตามสาขาความเชี่ยวชาญในแต่ละสาขาการพิจารณา 6 สาขาดังนี้
ขอบเขตคือ งานวิจัยที่รับพิจารณาเกี่ยวข้องกับผู้เข้าร่วมในมนุษย์และ/หรือตัวอย่างชีวภาพของมนุษย์ ต้องได้รับการอนุมัติทางจริยธรรมจากคณะกรรมการจริยธรรมประจำสถาบันก่อน จากนั้นจึงยื่นโครงการกับทาง CREC เพื่อพิจารณาในลำดับถัดไป โดยเงื่อนไขของโครงการวิจัยมีสิทธิ์สมัครรับการพิจารณาเมื่อตรงตามเกณฑ์ข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้
โดยการพิจารณารับรองจาก CREC จะมีหัวข้อการพิจาณาดังนี้
CREC มุ่งมั่นที่จะปรับปรุงคุณภาพและประสิทธิภาพของการทบทวนอย่างต่อเนื่อง แผนกลยุทธ์ของเราคือการพัฒนาความได้เปรียบทางการแข่งขันที่ยั่งยืนและยกระดับผลงานทางวิชาการของการศึกษาวิจัยในประเทศไทย เพื่อให้พวกเขากลายเป็นผู้นำระดับโลกในการศึกษาวิจัยทางคลินิก